อำลา

หลายวันมานี้เวลาของฉันผ่านไปอย่างลำบากยากใจ ดวงจิตของฉันวิ่งวนอยู่ระหว่างคำ ‘ย้าย’ กับ ‘ไม่ย้าย’ ไป ๆ มา ๆ อยู่เช่นนั้นจนไม่เลยที่จักหาความสุขสงบได้แม้สักชั่วครู่ยาม

บนความลังเลนั่น ความอึดอัดเกินอั้นฉายวาวอยู่แต่เช้าจนค่ำคืน สำหรับฉันยามนี้..วันเวลาช่างเหมือนใบไม้เหลืองกรอบในสายลมของฤดูใบไม้ร่วงที่พลิ้วพรูอย่างมากมายจนไม่ทันยับยั้งตั้งตัว

ฉันนั่งมองพื้นระเบียงฟากไม้ไผ่ซึ่งบัดนี้ผุกร่อน โครงคานถูกปลวกขึ้นมาทำลายด้วยเห็นเป็นอาหารโอชะ ใช่เพียงระเบียงใบไม้ที่ฉันใช้นั่งอ่าน-เขียนทุกบ่าย แม้ตัวกระท่อมเองก็ไม่อยู่ในสภาพจะใช้การได้อีกต่อไป หากซ่อมแซมก็เหมือนประเคนอาหารจานใหม่ให้บรรดาปลวกเจ้าถิ่น ส่วนการคิดใช้น้ำยาฆ่าปลวกนั้นขออย่าได้หมาย ฉันยังหวังครองชีวิตกับเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ดำรงชีพโดยวิถีของตนไปด้วยกัน เมื่อไม่คิดกำจัดทำให้ไม่อาจยับยั้งการรุก ฉันกลับต้องเป็นฝ่ายยอมละทิ้งกระท่อมซึ่งสร้างมากับมือ

ฉันไปปัดกวาดกระท่อมเก่าปลายนาที่หลังคามุงด้วยกระเบื้อง หวังใช้คุ้มแดดฝนพอให้ผ่านฤดูพายุลมที่กำลังมาถึงนี้ไปก่อน

แต่นั่นเท่ากับว่าฉันจะต้องตัดใจทิ้งกระท่อมมุงจากที่เคยฝากชีวิตมาหลายปี ทิ้งร่มผู้เฒ่าที่ฉันเคยคุ้นนอนหนุนเงารับลมเย็นอยู่ทุกบ่าย

จะหาที่ไหนสงบสุขได้เท่ากระท่อมใบไม้แห่งนี้ คงไม่มีแล้ว

ฉันย้ายข้าวของทดลองอยู่กระท่อมมุงกระเบื้อง ที่นั่นฉันพบแต่ระอุร้อนทั้งยังต้องผจญกับประดามดตัวเล็ก ๆ ซึ่งครองอยู่ก่อนจนไม่ได้หลับได้นอน แต่เวลาที่ลมเปลี่ยนทิศกระชั้นเข้ามาทุกที ถึงเวลานั้นพายุฝนก็จะกระหน่ำไม่เปิดโอกาสให้คิดทบคิดทวนอีกต่อไป

ฉันจำตัดใจอำลาความสุขที่เคยคุ้น ตัดใจลาผู้เฒ่าโพธิ์ทะเลที่เป็นเหมือนเพื่อนบ้านอารี ที่ที่ฉันจะไปอยู่ห่างไปอีกร่วมสองร้อยเมตร ไม่มีน้ำประปาต้องรออาศัยแต่น้ำจากฟ้า ทั้งไม่มีไม้ใหญ่ให้ร่มเงา

ฉันคงต้องไปเริ่มทุกอย่างใหม่..เริ่มด้วยคำถามที่ว่า

“ทำอย่างไรจึงจะสามารถดำรงอยู่ได้อย่างสุขสมดุลในทุกจังหวะเคลื่อนของดวงตะวัน ผ่านเช้าสายบ่ายเย็นค่ำอย่างสอดคล้องกลมกลืน?”

ยังมีงานอีกมากหลายคอยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นปรับกระท่อมที่ร้อนระอุให้มีทางลมผ่าน ปรับคันดินอันเต็มด้วยวัชพืชให้มีที่ปลูกผักปลูกผลไม้อย่างใจหมาย

วันพรุ่งฉันจะย้ายข้าวของ
เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตที่ดำรงชีพอยู่กับดินน้ำฟ้า
บำเพ็ญตนอยู่ในฆราวาสธรรม
ผ่านวันเวลานิ่งงัน..ด้วยอักขระอ่อนหัดที่ยังคงค่อยคืบค่อยคลาน

ฉันเริ่มระเบียงใบไม้ด้วยอวนอุ่นของไอแดดยามบ่าย..สายลมที่ล้อไม้ไหวโอน..เมื่อไม่มีระเบียงที่เคยนั่งขีดเขียนฉันก็ไม่อาจนำตัวอักษรเดินทางในนามของระเบียงฯ ได้อีกต่อไป

ทุกการพบมีการพราก
ทุกการอยู่ร่วมมีการจาก

ความจริงข้อนี้ฉันตระหนักด้วยหัวใจที่สะทกสะท้อนตลอดมา

ลาก่อน..ระเบียงใบไม้..

ธุลีดิน